ฉันจะต้องปฏิบัติอย่างไรหากต้องการรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด
ปัจจุบันคุณจำเป็นต้องใส่แว่น และไม่สามารถถอดแว่นได้เนื่องจากสายตาสั้นหรือยาวมาก จะฝึกด้วยวิธีนี้ได้หรือไม่ ตอบว่าได้แน่นอนอยู่แล้ว ความจริงแล้ว ยังมีจักษุแพทย์อีกหลายท่านที่นอกจากรักษาสายตาสั้นและยาวด้วยวิธีธรรมชาติของ Dr. Bates แล้ว ยังมีความสามารถรักษาปัญหาสายตาอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ตาเหล่ และ ตาขี้เกียจ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง เพราะวิธีแก้ไขแตกต่างกันออกไปและต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับแว่นสายตาในการแก้ไข (แว่นตาก็มีส่วนช่วยเหลือในกรณีนี้) อีกอย่างก็คือ ผมไม่สามารถพิสูจน์ขั้นตอนในการปฏิบัติได้ แต่ก็เชื่อว่าน่าจะช่วยเหลือโรคดังกล่าวได้
การผ่าตัดตา
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าในหนังสือของ Dr. Bates นั้น เมื่อกล่าวถึงการผ่าตัดตาไม่ได้หมายถึงการทำ PRK หรือ Lasik เนื่องจากเทคโนโลยีทั้งสองอย่างเกิดขึ้นในปลาย ค.ศ. 1900 อย่างไรก็ดี ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดตาไม่ว่าวิธีใดก็อาจเกิดปัญหาสายตาพร่ามัว มองไม่ชัด สายตาเอียง ตาไวต่อแสงเกินไป ปัญหาตาอื่น ๆ ปวดหัว หรือ เวียนหัว หากผู้ป่วยเหล่านี้เกิดปัญหาด้านสายตาขึ้นอีก เขาคงต้องการทราบว่าการรักษาตาด้วยวิธีธรรมชาตินั้น สามารถรักษาอาการต่าง ๆ ดังกล่าวได้หรือไม่หลังการผ่าตัด เพราะการรักษาด้วย PRK หรือ Lasik นั้น ทำได้เพียงไม่กี่ครั้งก่อนที่เนื้อเยื่อกระจกตาของคุณจะหมดไป กระจกตาเหมือนกับตับและผิวหนังของเรา สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ กระจกตาที่ผิดรูปเนื่องจากพฤติกรรมการใช้สายตาหรือมีบาดแผลสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ตามธรรมชาติ ดังนั้น ตาของผู้ป่วยก็จะกลับมามองเห็นได้ชัดเจน การผ่าตัดกระจกตาเป็นการตัดแต่งรูปของกระจกตาเพื่อให้กลับมาเห็นชัดเจน การผ่าตัดทำให้กระจกตาอ่อนแอ มันอาจซ่อมแซมตัวเองหลังจากผ่าตัดได้ หากใช้วิธีการรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด กระจกตาอาจสามารถกลับมาดีเหมือนเดิมได้ การรักษาตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตาที่ตึงเครียดและส่งผลให้รูปร่างดวงตากลับคืนสู่สภาพปกติ แต่การรักษานี้อาจส่งผลกระทบต่อกระจกตาที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาก่อนหน้า กระจกตาและกล้ามเนื้อต้องอยู่ในสภาพผิดปกติเช่นนี้เพื่อให้ดวงตามองเห็นได้ชัดเจนผ่านตาที่ผ่าตัด ในตำราของ Dr. Bates นั้น ได้แนะนำว่าหากไม่มั่นใจในการฝึกด้วยวิธีธรรมชาติ ให้ปรึกษาจักษุแพทย์ ผมไม่ได้เป็นจักษุแพทย์ก็ตอบแทนได้ครับ ว่าจักษุแพทย์ไม่ให้ฝึกเด็ดขาด แม้จะมีแค่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เขาก็ยัดเหยียดให้ 1000 เปอร์เซ็นต์ เพราะจักษุแพทย์ไม่รู้จักการรักษาโดยวิธีนี้ ประเด็นของแพทย์ที่ไม่เชื่อถือการรักษาที่เรียกว่าการแพทย์ทางเลือก เป็นประเด็นที่ต้องเล่าอีกยาวอย่างที่กล่าวไว้ในบทความก่อนหน้านี้ หากมีโอกาสจะได้เขียนเบื้องหลังนี้ให้ทราบต่อไปครับ ดังนั้น ผมจะสรุปง่าย ๆ ว่า หากคุณได้รับการผ่าตัดแล้ว และเริ่มมีปัญหาสายตาตามมาอีก คุณอาจพิจารณารักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัดก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ประกันว่าจะดีขึ้น บางครั้งอาจจะแย่ลงก็ได้ จึงขอให้ท่านพิจารณาด้วยความรอบคอบ และอาจอ่านเรื่องนี้ก็ได้หากยังสงสัย
ตาต้อประเภทต่าง ๆ
ตาต้อแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่
ต้อกระจก (Cataract)
ต้อลม (Pinguecula)
ต้อเนื้อ (Pterygium)
ต้อหิน (Glaucoma)
ในแผนการแพทย์ปัจจุบัน ตาต้อทุกประเภทจำเป็นต้องเยียวยาด้วยการผ่าตัด แต่จากหนังสือของ Dr. Bates กล่าวว่าต้อกระจกสามารถหายเองได้โดยวิธีธรรมชาติบำบัด ส่วนต้ออื่น ๆ ที่เหลือไม่ได้กล่าวถึง ผมเองเคยได้ยินเพื่อนสนิทเล่าให้ฟังว่า เขามีเพื่อนบ้านที่เป็นต้อหินและกำลังจะไปผ่าตัดเพื่อลอกออก แต่บังเอิญได้มีโอกาสทดลองสารอาหารยี่ห้อหนึ่งแล้วหาย เลยไม่ต้องผ่าตัดอีกต่อไป การผ่าตัดตาต้อประเภทต่าง ๆ นั้น ขึ้นอยู่กับว่าการผ่าตัดนั้นมีการปรับแต่งกระจกตาหรือเลนส์ตาหรือไม่ หากมีการปรับแต่งในส่วนที่กล่าวแล้ว หากเกิดปัญหาสายตาภายหลัง การรักษาโดยวิธีธรรมชาติบำบัดก็ต้องใช้ดุลยพินิจของผู้สนใจเอง แต่ข่าวดีชิ้น
ฉันใส่แว่นสายตาเป็นประจำและต้องการรักษาสายตาด้วยวิธีธรรมชาติ จะต้องทำอย่างไร
ถ้าคุณอยู่ในข่ายนี้และต้องการรักษาสายตาของคุณด้วยวิธีการของ Dr. Bates คุณไม่ต้องกังวลใจเพราะมีวิธีการรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติของ Dr. Bates นี้ใช้ได้กับคนที่สายตาสั้น สายตายาว หรือทั้งสองอย่าง ทั้งที่เป็นมากและเป็นน้อย โดยปกติแล้ว ผู้ที่สายตาสั้นหรือยาวนั้น จะต้องเปลี่ยนแว่นเป็นระยะ สั้นบ้างยาวบ้างขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนของสายตา นั้นหมายความว่าแว่นที่ใส่จะต้องมีกำลังมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะทำให้ดวงตาของผู้ใส่ต้องทำงานมากขึ้น กล้ามเนื้อของดวงตาจะเครียดมากขึ้น ดังนั้น ผู้ที่ใส่แว่นอยู่และต้องการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติจะต้องเปลี่ยนแว่นให้มีกำลังลดลง เช่น ถ้าคุณใส่แว่นอยู่ที่ 200 คุณควรจะลดกำลังลงมาเหลือสัก 175 -150 แทน ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อให้กล้ามเนื้อในดวงตาของคุณไม่ต้องทำงานหนักและเครียดมาก เป็นการผ่อนคลายสายตาโดยรวมอีกวิธีหนึ่ง แต่ถ้าคุณต้องมองดูอะไรไกล ๆ และต้องการความคมชัดก็คงต้องระวัง เช่น เมื่อคุณต้องขับรถ คุณก็ใช้แว่นที่ทำให้เห็นชัดเจน และปรับมาใช้แว่นที่มีกำลังอ่อนลงเมื่อความคมชัดไม่ใช่ปัญหามากนัก และถ้าการมองอะไรไกล ๆ ไม่มีความจำเป็นเลย ก็ถอดแว่นเสียเลยเพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อสายตา ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ใช้ได้ ด้วยเหตุผลข้างต้น อาจทำให้คุณต้องมีแว่นหลายอัน หากแว่นตาอันเดิมของคุณยังอยู่ก็สามารถนำกลับมาใช้ได้ จะกล่าวง่าย ๆ ว่า ให้หลีกเลี่ยงการใส่แว่นสายตาทุกชนิดหากทำได้

แล้วคนที่ใส่คอนแทคเลนส์จะรักษาวิธีนี้ได้หรือไม่
ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ก็สามารถใช้วิธีการรักษานี้ได้เช่นเดียวกัน ปัญหาของคนที่ใส่คอนแทคเลนส์แทนแว่นนั้น คือผู้ใส่ไม่สามารถใส่และเอาเลนส์เมื่อต้องการใช้ได้ง่ายเหมือนแว่น คนที่ใส่คอนแทคเลนส์มักใส่ทั้งวันจนเย็นหรือคำถึงจะถอดออก ซึ่งหมายความว่า กล้ามเนื้อตาของผู้ใส่จะถูกทำให้เครียดอยู่ตลอดเวลาทั้งมองใกล้และมองไกล นี่เป็นปัญหาที่มาจากผู้ที่ต้องการรักษาโดยวิธีธรรมชาติบำบัดเอง ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์มักไม่ต้องการที่จะเสียความรู้สึกที่สะดวกสบายจากการใส่คอนแทคเลนส์ ดังนั้นการรักษาด้วยวิธีนี้อาจไม่ได้ผลจากข้อจำกัดของผู้สนใจเอง ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ควรเปลี่ยนมาใส่แว่นตาแทนหากต้องการรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด ผมเคยแนะนำเพื่อนอาจารย์สองท่านให้ฝึก (ทั้งสองคนสั้นประมาณ 500 - 700) แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะไม่ต้องการเสียความรู้สึกสะดวกสบายกับการใส่คอนแทคเลนส์ไป ก่อนปิดท้ายหัวข้อนี้ คุณไม่ควรคาดหวังว่าจะให้เห็นผลในระยะเวลาอันรวดเร็ว คิดง่าย ๆ ว่าคุณอุตส่าห์ประคบประหงบให้สายตาคุณแย่ขนาดนี้ยังต้องใช้เวลาหลายปี แล้วคาดคิดว่าปัญหาสายตาของคุณหายไปในเร็ววันคงไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการรักษาด้วยสมุนไพร คุณจะสังเกตว่าการใช้ยาสมุนไพรจะเป็นไปอย่างช้า ๆ แต่ได้ผล การรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัดก็เช่นเดียวกัน คุณอาจหายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับว่าสายตาคุณแย่มากแค่ไหน ปฏิบัติตามวิธีได้อย่างถูกต้องและบ่อยแค่ไหน คุณอาจจะหายขาดจากโรคสายตาของคุณด้วยระยะเวลาไม่กี่เดือนจนถึง 1-2 ปีก็ได้ แต่เท่าที่ผมได้อ่านต้นฉบับมาพบว่า ส่วนใหญ่แล้วอาการสายตาต่าง ๆ จะเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ และมักหายไปได้ภายใน 1 ปี หากปฏิบัติตามวิธีอย่างถูกต้องและบ่อยเพียงพอ
อ่านต่อ การรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด
ตอนที่ 4 ฉันจะต้องปฏิบัติอย่างไรหากต้องการรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัด
Σχόλια