top of page
  • Writer's pictureกันต์ธนน วณิชพิสิฐธนา

15 จุดกดบนร่างกายเพื่อปรับปรุงสายตา

นอกเหนือจากวิธีของ Dr. Bates ที่ได้ลงไปแล้ว ในตำราหมอโบราณของจีนก็มีวิธีการบำบัดปัญหาสายตาเช่นเดียวกันโดยใช้วิธีกดจุดต่าง ๆ บนร่างกาย ความจริงเรารู้จักการกดจุดกันมานานมากแล้วซึ่งมักเน้นไปที่การแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระดูก ปวดหัว และโรคอื่น ๆ แต่เรามักไม่ได้นึกถึงการกดจุดเพื่อบรรเทาหรือบำบัดสายตา ที่จริงเราก็อาจไม่เคยคิดด้วยซ้ำไปว่าการกดจุดสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้

จากเว็บไซต์นี้ได้กล่าวว่า “การกดจุดสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้แม้กระทั่งโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา นอกจากนี้ยังสามารถรักษาโรคตาหลายชนิดที่บางครั้งไม่สามารถรักษาได้ตามธรรมชาติ การกดจุดถูกใช้ในการรักษาสายตาสั้น (Myopia), สายตายาว(Hypermetropia และ Presbyopia) ต้อกระจก ต้อหิน สายตาเอียง ตาขี้เกียจ (Amblyopia) ตาบอดสี ตาบอดกลางคืนและปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับดวงตาได้สำเร็จเป็นอย่างดี โดยการกดจุดอย่างถูกต้อง เราสามารถรักษาความผิดปกติของดวงตาเหล่านี้ได้”


ชาวจีนเป็นต้นตำหรับการกดจุดแต่ทำไมเด็กจีนเริ่มมีปัญหาสายตามาก


จากการศึกษาจากเว็บต่าง ๆ หลายแห่ง ทำให้ผมไม่มั่นใจว่าการใช้กดจุดนั้น สามารถรักษาอาการทางสายตาต่าง ๆ ได้ จากข่าวต่าง ๆ ในประเทศจีนและฮ่องกงได้เริ่มกล่าวถึงปัญหาเด็ก ๆ ที่มีปัญหาสายตาสั้นเพิ่มมากขึ้นแม้ว่าเด็ก ๆ เหล่านี้มีการฝึกสายตาทุกวัน จากผลการวิจัยนี้ในประเทศฮ่องกง เด็กอายุในช่วง 7 ขวบจะมีอัตราสายตาสั้นประมาณ 11-12 % และเมื่อถึงอายุ 17 ปี วัยรุ่นกลุ่มนี้จะมีอัตราสายตาสั้นถึง 70%

จากบทความนี้ ผู้เขียนได้อ้างงานวิจัยหลายชิ้น โดยได้สรุปว่าการอ่านหนังสือไม่ได้เป็นสาเหตุของสายตาสั้น ซึ่งตรงกับวิธีการรักษาสายตาของ Dr. Bates ในการฝึกอ่านตัวหนังสือขนาดเล็ก นอกจากนี้การใช้คอมพิวเตอร์หรือมองดูอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าทำให้คนสายตาสั้น แต่มีการเปรียบเทียบเด็กในสิงคโปร์และในออสเตรเลียว่าเด็กในสิงคโปร์มีอัตราสายตาสั้นมากกว่าในออสเตรเลียเนื่องจากเด็กในสิงคโปร์ใช้เวลาในที่แจ้งน้อยกว่าเด็กในออสเตรเลีย ซึ่งประเด็นนี้ก็สอดคล้องกับวิธีการรักษาสายตาของ Dr. Bates ในเรื่องการทำ Sunning ในบทความนี้ยังแนะนำไว้ด้วยว่า ควรจะให้เด็ก ๆ มีโอกาสได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 3 ขั่วโมงในแต่ละวัน

จากประสบการตัวเองที่สายตาสั้น ผมคิดว่าการอ่านหนังสือและการดูจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายนั้น มีส่วนที่ทำให้สายตามีปัญหาได้เนื่องจากการใช้หักโหมโดยไม่มีการพัก จึงทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการทำงานของดวงตาผิดปกติ แต่ที่สายตาไม่แย่มากนักเพราะผมไม่ใส่แว่นตอนอ่านหนังสือ ทำงานกับคอมพิวเตอร์และยังใช้เวลากลางแจ้งมากพอควร

ในคู่มือการรักษาสายตาโดยวิธีธรรมชาติบำบัดที่รวบรวมโดย Mary Iva Oliver ซึ่งใช้นามปากกาว่า Clark Night ก็ได้สอนวิธีการใช้การกดจุดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อดวงตาไว้ด้วย ผมได้ทดลองการกดจุดและรู้สึกว่าดี ทำให้ส่วนต่าง ๆ ของดวงตาผ่อนคลายและเบา แต่ผมคิดว่าการกดจุดเพียงอย่างเดียวไม่น่าที่จะทำให้สายตาที่ผิดปกติกลับคืนมาได้ หากใช้กับคนที่สายตาปกติ ก็อาจจะช่วยให้สายตาไม่เปลี่ยนแปลงไป ต่อไปนี้จะอธิบายถึงการกดจุดและวิธีการสำหรับการผ่อนคลายสายตา


การกดจุคืออะไร?


การนวดกดจุด การนวดแผนจีน หรือ Tui Na (推拿) เป็นเทคนิคการรักษาด้วยตนเองแบบโบราณที่เกี่ยวข้องกับการกดจุด เฉพาะที่บนร่างกายของคุณเพื่อกระตุ้นความสามารถในการรักษาตัวเองของร่างกายคล้ายกับ shiatsu ของญี่ปุ่น การกดจุดนี้มีการใช้ในการแพทย์แผนจีนมานานกว่า 5,000 ปี การกดจุดมีลักษณะการทำงานคล้ายกับการฝังเข็มเพียงแต่ว่าไม่มีการใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปใต้ผิวหนัง

หมอฝังเข็มจีนจะใช้การฝังเข็มเพื่อรักษาอาการ เช่น สายตาสั้น และข้อบกพร่องทางสายตาอื่น ๆ การฉีกขาดของจอภาพ อาการตากระตุก และตาเหล่ เป็นเวลาหลายปี

ในบทความนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่การกดจุดไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย และไม่มีมีค่าใช้จ่าย ที่สำคัญที่สุด คุณสามารถทำมันได้เองโดยปราศจากความช่วยเหลือจากผู้อื่น


การกดจุดทำงานอย่างไร


ผู้ที่ร่ำเรียนมาทางด้ายฝังเข็มและกดจุดเชื่อว่า ในร่างกายของเราประกอบด้วยเส้นลมปราณที่มองไม่เห็น เส้นลมปราณนี้เริ่มต้นจากปลายนิ้วมือนิ้วเท้าไปยังศีรษะและอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของเข้าด้วยกัน กลายเป็นเครือข่ายไปทั่วร่างกาย

เมื่อร่างกายมีสุขภาพดีพลังงาน (Qi - 气) จะไหลเวียนได้อย่างง่ายดายตามเส้นทางเหล่านี้ ส่งผลให้มีชีวิต และเมื่อจำเป็น จะทำการรักษาให้

อย่างไรก็ตามปัจจัยหลายประการ เช่น โภชนาการที่ไม่ดี การบาดเจ็บทางกายภาพ และความเครียด อาจทำให้เกิดการอุดตันเกิดขึ้นตามเส้นลมปราณ การไม่สบายจึงเกิดขึ้นเนื่องจากพลังงานไม่สามารถไหลเวียนได้และอาจทำให้เกิด การเจ็บ การป่วยและความผิดปกติของร่างกาย

สำหรับการเยียวยา หมอฝังเข็มหรือกดจุดจะระบุบริเวณที่กีดขวางและระบุตำแหน่งที่ฝังเข็มเรียกว่าจุดฝังเข็ม หรือ Acupoint ( 穴道)ที่สัมพันธ์กับอวัยวะต่าง ๆ ที่มีปัญหา

ตัวอย่างเช่น เพื่อรักษาความตึงเครียดบนศีรษะ จุดฝังเข็มบางจุดบนมือก็มีความสำคัญเนื่องจากลมปราณเชื่อมต่อกัน

โดยการกดหรือฝังเข็มผ่านจุดฝังเข็มนี้ ความตึงเครียดจะถูกปล่อยออกมาและการไหลของพลังงานจะกลับคืนมา เมื่อพลังงานถูกฟื้นฟู ชีของร่างกายก็จะกลับมาและเกิดการรักษาร่างกาย สุขภาพก็จะฟื้นคืนกลับมา

การกดจุดได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์หรือไม่


ไม่มีข้อยุติในเรื่องประสิทธิภาพของการกดจุด หลายคนเชื่อว่าเป็นเพียงเรื่องของผลยาหลอก อย่างไรก็ตามแม้ว่าหมอแผนปัจจุบันบางคนไม่เชื่อในชี แต่พวกเขาเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการกดจุดนั้นเป็นเพราะความตึงเครียดของกล้ามเนื้อลดลง การไหลเวียนที่ดีขึ้น และการกระตุ้นเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสานที่หลั่งออกจากร่างกายเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยชิ้นที่ระบุว่าการฝังเข็มสามารถช่วยลดอาการปวดหลัง ความเมื่อยล้า อาการปวดศีรษะ ความดันโลหิตสูง และรักษาอาการบาดเจ็บที่สมองได้ และยังมีการค้นพบว่า การกดจุดมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการลักษณะเดียวกัน ที่แพทย์แผนปัจจุบันต้องรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัดเท่านั้น ตัวอย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์ที่วิจัย พบว่าการกดจุดที่ทวารหนักเป็นประโยชน์ในการช่วยให้การมองเห็นในผู้ป่วยโรคต้อหินได้ดีขึ้น

โดยสรุปในขณะที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มีหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกดจุด แต่หากคุณมีข้อสงสัย วิธีที่ดีที่สุดคือการลองใช้เองและดูผลกระทบ นอกจากไม่ต้องเสียสตางค์แล้ว ยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย


วิธีการกดจุดที่ถูกต้อง


ประการแรกคือ การกดจุดไม่ควรทำให้คุณเจ็บ คุณต้องมั่นใจว่ากดถูกตำแหน่ง ในการปฏิบัติ ให้ใช้แรงกดที่พอเหมาะและสม่ำเสมอโดยใช้นิ้วมือหรือหัวแม่มือ เพราะวัตถุประสงค์ของการกดจุดคือการกระตุ้น ไม่ใช่ทำให้กล้ามเนื้อรัดตัวจากความเจ็บ คุณสามารถใช้แรงกดเป็นจังหวะไปยังจุดที่กดเป็นเวลาสิบวินาที แล้วปล่อยเป็นเวลาสิบวินาที แล้วทำซ้ำสลับกันไปแปดครั้ง หรือนวดให้เป็นวงกลมเล็ก ๆ วิธีการนี้อาจจะดีกว่าเพราะทำให้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อผ่อนคลายรอบจุด ขอให้ลองดูทั้งสองวิธีตามชอบ


การกดจุดสำหรับดวงตา


ตามตำราแพทย์แผนโบราณของจีน มีจุดฝังเข็มมากกว่า 400 จุดในร่างกาย แต่ที่จะแบ่งปันกับคุณในวันนี้เป็นจุดที่ใช้เพื่อปรับปรุงสายตา

สิ่งที่ควรทราบก่อนการกดจุด:

  • หากคุณป่วยเป็นโรคร้ายแรงหรืออาจเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น โรคหัวใจ หรือโรคมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนการเริ่มฝึกการกด่จุด

  • ให้กดจุดบริเวณใกล้ดวงตา อย่ากดบนลูกตา

  • ให้หยุดทำต่อถ้ารู้สึกว่าตามีสีชมพูเกิดขึ้น หรือมีการฉีกรอบดวงตา หรือมีการติดเชื้อไวรัส

  • ล้างมือให้สะอาดก่อนทำการกดจุดเพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกเข้าไปในตาหรือใบหน้าของคุณ เพราะคุณคงไม่ต้องการตาสีชมพูหรือสิวบนหน้า

  • หากมีอาการที่กล่าวข้างต้นและไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์

  • แนะนำให้ดื่มน้ำ (แนะนำว่าเป็นน้ำอุ่น) หลังจากเสร็จสิ้นการประจำ acupressure ของคุณ จะช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย

จุดสำหรับกดเพื่อปรับปรุงสายตาบริเวณรอบดวงตา


มีหยุด 3 จุดที่เป็นประโยชน์อยู่ตามแนวของคิ้วและ 4 จุดข้างใต้ดวงตา


Acupressure points around the eye to improve eyesight
  1. Zan Zhu Point (攒竹穴) - อยู่ในความหดหู่ที่ปลายด้านในของคิ้ว ช่วยลดดวงตาสีแดงและเจ็บปวดน้ำตาน้ำตาน้ำตาปวดศีรษะวิสัยทัศน์หมอกและไข้ละอองฟาง

  2. Yu Yao Point (鱼腰穴) - จุดกึ่งกลางของคิ้วในรูกลวงเหมาะสำหรับปัญหาสายตาที่เกี่ยวกับความกังวลการศึกษาและความเครียดที่มากเกินไป

  3. Si Zhu Kong Point (丝竹空穴) - อยู่ในภาวะซึมเศร้าที่ปลายด้านนอกของคิ้ว นี่เป็นจุดที่ดีสำหรับปัญหาสายตาและใบหน้าและช่วยขจัดอุปสรรคในเส้นเมอริเดียน

  4. Tong Zi Liao Point (瞳子髎穴) - ด้านนอกของซ็อกเก็ตตา ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในตาช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและลดริ้วรอย

  5. Cheng Gi Point (承泣穴) - อยู่ด้านล่างของนักเรียนบนสันเขา infraorbital ช่วยบรรเทาสายตาสีชมพูสายตาสั้นและการฝ่อในหลอดตา

  6. Jing Ming Point (睛明穴) - นอนที่มุมด้านในของดวงตาตรงกับจมูก จะเป็นประโยชน์เมื่อต้องรับมือกับโรคต้อหินฮิสทีเรียที่มีการสูญเสียการมองเห็นและต้อกระจกในระยะเริ่มแรก

ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางลูบไปตามแนวสันขอบดวงตา 8 ครั้ง และทำแบบเดียวกันกับบริเวณใต้ดวงตา เริ่มต้นจากด้านในไปยังด้านนอกของดวงตา โดยหดเก็บนิ้วนางและนิ้วก้อยไว้ ใข้นิ้วหัวแม่มือเป็นหลักช่วยในการลูบบริเวณขมับและแก้ม


จุดสำหรับกดบริเวณใบหน้า


ยังมีอีก 5 จุดที่สำคัญบนใบหน้าของเราสำหรับการมองเห็นที่ชัดเจน โดยรูปจากรายละเอียดในภาพถัดไป


Acupressure on face to improve eyesight

  1. Yin Tang (印堂穴) – อยู่ตรงกลางหน้าผากระหว่างคิ้ว จุดนี้จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของดวงตา ปวดศีรษะ และคัดจมูก ผ่อนคลายระบบประสาททั้งระบบโดยการปรับปรุงอารมณ์เครียด และช่วยเรื่องสายตา

  2. Yang Bai Point (阳白穴) – อยู่บนหน้าผากตรงเหนือศูนย์กลางของคิ้ว ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ตากระตุกตาบอดกลางคืน และโรคต้อหิน

  3. Tai Yang Point (太阳穴) – อยู่ที่ขมับ อยู่ประมาณ 1 ซม.จากด้านนอกของคิ้วของคุณ ช่วยเรื่องไมเกรน เจ็บตาและตาไวต่อแสงเกินไป เพิ่มควาชัดเจนในการมองเห็น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการรักษาอาการวิงเวียนศีรษะและอัมพาตบนใบหน้า

  4. Si Bai Point (四白穴) – อยู่ตรงเบ้าตาล่าง ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของแต่ละมือกดตรงบริเวณขอบเบ้าต่างล่าง เพื่อ บรรเทาอาการตาแห้ง ปวดไซนัส ปวดศีรษะ ตาคนแก่และล้าตา อาจช่วยลดถุงใต้ตาด้วย

  5. Bi Tong Point (鼻通穴) - อยู่ด้านข้างของรูจมูกของคุณ ช่วยแก้อาการไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก ปวดศีรษะและการหักเหในตา ใช้นิ้วกดพร้อมกันทั้งสองข้าง

จุดสำหรับกดบนมือ


  1. He Gu Point (合谷穴) - เรียกอีกอย่างว่า hoku point บนมือที่คุณต้องการกดจุด ให้เลื่อนนิ้วหัวแม่มือไปบนนิ้วชี้ตามภาพ สังเกตพื้นที่นูนขึ้นมาจากกล้ามเนื้อ นั่นคือ He Gu นวดจุดนี้เพื่อเพิ่มการไหลเวียนและพลังงานประสาทไปยังศีรษะ นอกจากนี้ยังใช้บรรเทาอาการปวด ใช้นิ้วหัวแม่มืออีกข้างหนึ่งกดปุ่มค้างไว้ 10 วินาทีในขณะที่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ของมือ ทำซ้ำ 8 ครั้ง


He Gu Point (合谷穴)

2. Ming Yan Point (明眼穴) & Feng Yan Point (凤眼穴) - อยู่ที่ด้านซ้ายและด้านขวาของนิ้ว

หัวแม่มือของคุณ ทั้งสองจุดช่วยในเรื่องสายตายาว ล้าตา และตาอักเสบ บีบบริเวณนี้ด้วยนิ้วหัว

แม่มือและนิ้วชี้ด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ใช้แรงกดเบา ๆ ค้างไว้ 10 วินาที แล้วปล่อยออก ทำซ้ำ 8 ครั้ง



3. Yan Dian Point (眼点穴) – อยู่ที่ด้านหลังของคอของคุณที่กกหู ซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะและ

ด้านหลังหูของคุณ การกดจุดนี้จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อคอ ศีรษะ และดวงตา ช่วยลดปัญหา

สายตาคนแก่ ตากระตุก และคอตึง ใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองนวดทั้งสองจุดพร้อมกัน ใช้นิ้วหัวแม่มือ

นวดเป็นวงกลมเล็ก ๆ 8 รอบ ตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกา อย่ากดแรงเกินไปจนเจ็บ


การทำ Palming เพื่อผ่อนคลาย


ขอแนะนำให้คุณทำ Palming หลังกดจุดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา


คำแนะนำ


ผู้ปฏิบัติการกดจุดกล่าวว่า ควรทำอย่างน้อยทุกวัน วันละครั้งหากต้องการเห็นผล และอาจทำควบคู่กับการดื่มน้ำสมุนไพรด้วย เช่น เก็กฮวยกับเก๋ากี้ หรือ อ่านตรงนี้ สำหรับอาหารอื่น ๆ


704 views0 comments
bottom of page